ฟิล์มกรองแสงรถ EV สำคัญกว่าที่คิด! - Insure Friend Broker - "เรื่องประกันภัย ไว้ใจเพื่อนคนนี้"

ฟิล์มกรองแสงรถ EV สำคัญกว่าที่คิด!

        สัมภาษณ์พิเศษ : รณวีร์ องคะสุวรรณ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด

        หลายคนอาจจะคิดว่ากระแสความนิยมรถยนต์ไฟฟ้าที่มาแรงอยู่ในขณะนี้มาจากความต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง และความตระหนักในปัญหาสภาวะโลกร้อน ที่ทำให้เกิดมลภาวะ และฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 แต่ในความเป็นจริงแล้วเทคโนโลยีล้ำสมัยที่มาพร้อมกับรถพลังงานไฟฟ้านับเป็นอีกจุดเด่นที่ดึงดูดใจให้คนรุ่นใหม่พากันหลงรักรถอีวีชนิดที่ว่าต้องหามาไว้ใช้สักคัน

        นอกจากจะได้ใช้เทคโนโลยีดิจิตอลล้ำสมัยแบบจัดเต็มแล้ว ยังได้ความประหยัดเชื้อเพลิง และได้ดูแลรักษาโลกให้ปลอดภัยจากปัญหามลพิษไปในตัว เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว

        เทคโนโลยีดิจิตอลล้ำสมัยในรถยนต์ไฟฟ้าทำให้มันกลายเป็น IoT Device ไม่ต่างอะไรกับสมาร์ทโฟนไปแล้ว เพราะฉะนั้นการเชื่อมต่อระหว่างรถยนต์กับอินเตอร์เน็ตเซิร์ฟเวอร์ในอากาศ หรือ การเชื่อมต่อกับดาวเทียมอยู่ตลอดเวลาจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ทั้งในด้านของการอัพเดทซอฟท์แวร์ เฟิร์มแวร์ และการเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ต หากการเชื่อมต่อติดขัด หลุด หรือไม่เสถียร อาจส่งผลถึงขั้นทำให้รถไม่สามารถทำงานต่อไปได้ หรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือผิดเพี้ยนจนนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้

        สัญญาณที่แรงและราบรื่นจึงมีความจำเป็นสำหรับรถอีวี แน่นอนว่าหากต้องการให้เวิร์กต้องทำให้สัญญาณต่าง ๆ ผ่านเข้ามาในรถโดยปราศจากการรบกวน แม้กระทั่งการติดฟิล์มกรองแสงก็ต้องคำนึงถึงว่าฟิล์มที่ใช้มีสารโลหะรบกวนการผ่านสัญญาณบ้างหรือไม่?

        เพื่อแก้ไขปัญหาตรงนี้ “ลามิน่า ฟิล์ม” จึงได้มีการคิดค้นฟิล์มกรองแสงที่เหมาะสำหรับรถอีวีสู่ตลาดหลายรุ่น โดยมีรุ่นที่พัฒนามาสำหรับใช้กับรถอีวีโดยตรง 2 รุ่น คือ Lamina Digital EV Boost และ Lamina Digital EVS Boost

ประสิทธิภาพของฟิล์มสำหรับรถอีวีของ “ลามิน่า ฟิล์ม” จะเป็นอย่างไร  มาสอบถาม คุณรณวีร์ องคะสุวรรณ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด กันเลยดีกว่า...


-ฟิล์มรถอีวีแตกต่างจากฟิล์มทั่วไปตรงไหน ทำไมควรใช้ฟิล์มสำหรับรถอีวีโดยตรง

        ฟิล์มสำหรับรถอีวีมีข้อแตกต่างของฟิล์มทั่วไปเพราะรถอีวีจำเป็นต้องอัพเดทซอฟท์แวร์อยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งในเรื่องของการใช้แอร์ก็ต้องใช้ไฟฟ้า การที่เราสามารถประหยัดพลังงานโดยการช่วยไม่ให้อุณหภูมิในรถร้อนเกินไป ก็ทำให้พลังงานที่นำมาผลิตแอร์ก็จะถูกใช้น้อยลง ทำให้เซฟแบตเตอรี่ได้มากขึ้น คอนเส็ปท์ของฟิล์มอันที่หนึ่ง ต้องปกป้องความร้อนอยู่แล้วล่ะ แต่การกันความร้อนของฟิล์มทั่วๆไปนั้นในขั้นตอนการผลิตจะต้องมีสารโลหะเข้าไปเป็นส่วนผสม ซึ่งสารโลหะจะเป็นตัวบล็อกสัญญาณอะไรหลายๆ อย่าง ฉะนั้นลามิน่าเลยคิดค้นฟิล์มสำหรับรถอีวีขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้โดยเฉพาะ


-อยากทราบข้อแตกต่างของฟิล์มอีวีกับฟิล์มกรองแสงทั่วไป

        ฟิล์มอีวีจะไม่บล็อกสัญญาณทุกประเภท ถ้าเราติดฟิล์มธรรมดาสัญญาณก็สามารถผ่านเข้ามาได้อยู่นะ แต่ถ้าขับรถไปถึงช่วงทางเลี้ยว ถ้ามัวแต่ดูสัญญาณอาจจะเลี้ยวไม่ทันแล้ว คือขับรถเลยไปแล้วสัญญาณเพิ่งบอกให้เลี้ยว คือมันจะมีความหน่วงของสัญญาณอยู่ ถ้าเวลาขับรถเกิดปัญหาอย่างนี้ขึ้นมา เราจะเรียกว่าไม่ผ่านสัญญาณ แต่ถ้าขับๆไป สัญญาณบอกให้เลี้ยวข้างหน้า จะสามารถเลี้ยวได้ตามปกติ อันนั้นคือผ่านสัญญาณ ไม่มีความหน่วง ฟิล์มอีวีจะแก้ปัญหาพวกนี้


-แสดงว่าการผลิตฟิล์มอีวีจะใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างจากฟิล์มทั่วไป

        การผลิตฟิล์มอีวีจะใช้เทคโนโลยีค่อนข้างสูง พัฒนาขึ้นมาโดยอีสท์แมน เพอร์ฟอร์แมนซ์ฟิล์ม ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยเนื้อฟิล์มที่ผลิตจากเทคโนโลยีพิเศษที่กันความร้อนดีเยี่ยม และด้วยคุณสมบัติพิเศษของเทคโนโลยี DigitalBoost ช่วยบูสต์สัญญาณดิจิทัลทุกชนิด ช่วยให้สามารถใช้งานสัญญาณดิจิทัลภายในรถยนต์ทุกรูปแบบได้เร็ว แรง ลื่น เสถียร

        เพระใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ราคาก็จะสูงตามไปนิดนึง แต่ถ้าแลกมาด้วยกับคุณภาพที่ได้นี่ มันคุ้มค่ามากอย่างฟิล์มอีวีของลามินานี่ เราจะมีคำว่าบูสต์ (Boost) เป็นฟิล์มตระกูลบูสต์ เป็นฟิล์มที่ผ่านสัญญานทั้งหมด ตัวท็อปสุดที่เป็นตัวชูโรงของเรา คือ EV Boost เนื่องด้วยความต้องการใช้สัญญาณของรถอีวีจะมีมากกว่าปกติ ในการพ่วงสัญญาณอะไรต่างๆ การผลิตฟิล์มจะใช้เทคโนโลยี AI ทำให้สามารถดึงสัญญาณต่างๆมาได้ทุกระบบ สมมติว่าเราติดฟิล์มที่สัญญานผ่านมาได้ 100% ถือผ่านอยู่แล้ว แต่ว่า EV Boost มีค่าคล้ายๆเป็นเสาอากาศที่จะดึงสัญญาณเข้ามาเพิ่มความเสถียรเพิ่มขึ้นไปอีก จะทำให้สัญญาณไหลแรงขึ้น ขณะเดียวกันยังกันความร้อนได้สูง


-กันความร้อนได้สูงกว่าฟิล์มทั่วไปประมาณกี่เปอร์เซ็นต์

        ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์จะค่อนข้างยาก แต่การกันความร้อนนี่เราจะมีค่าที่บอกชัดเจนอยู่แล้ว อย่างตัว 70 นี่ความเข้มไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ จะกันความร้อนได้ถึง 49 เปอร์เซ็นต์ ถามว่าเยอะไหม ไม่ได้เยอะ แต่ถือว่าเยอะมากสำหรับฟิล์มที่ใสขนาดนี้


-ราคาสูงกว่าฟิล์มทั่วไปประมาณเท่าไหร่

        ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ แต่ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว ราคาจะสูงกว่าประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์


-สำหรับคนที่ใช้รถไฟฟ้า ไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว

        ใช่ครับ คือถ้าเขาเซฟค่าอย่างอื่นมา แต่ตัวนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้รถเขา ถามว่าราคาสูงไหม อาจจะสูงนิดนึง แต่ถ้าถามว่าคุ้มไหม คุ้มมาก



-หลังจากเปิดตัวฟิล์มสำหรับรถอีวีได้รับความสนใจมากไหม

        เราลอนซ์ตัวอีวีเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ก็มีคนสนใจเยอะมาก แต่เนื่องจากส่วนใหญ่ก็จะรอรถ คือคนก็สนใจ มีที่จองไว้ แต่ว่ายังไม่ได้ไปติดจริง ตอนนี้รถเริ่มมีการส่งมอบก็เริ่มมีคนซื้อไปติด หลังจากงานมอเตอร์โชว์น่าจะดีมาก


-วางเป้าหมายการตลาดไว้อย่างไร

        ด้านยอดขายอาจจะพูดได้ว่า EV Boost เป็นตัวท็อปที่สุดของตลาด ณ ปัจจุบัน สำหรับรถอีวี ขึ้นอยู่กับลูกค้าว่าเขาจะประมาณการณ์บัดเจ็ทของเขาสักเท่าไหร่ ถ้าเขาคิดว่าติดแล้วคุ้ม ยังไงตลาดจะมาที่เราเยอะที่สุดแน่นอน


-ตอนนี้มีแชร์อยู่ประมาณสักกี่เปอร์เซ็นต์

        สำหรับตลาดฟิล์มอีวี ผมว่าเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ฟิล์มในตลาดส่วนใหญ่ยังไม่ประกาศตัวเป็นฟิล์มสำหรับอีวี ลามิน่าคือรายแรกที่ประกาศว่าเป็นฟิล์มอีวี เจ้าอื่นมีบอกว่าผ่านสัญญาน กันความร้อน ซึ่งมันก็ใช้ได้ และเป็นเบสิก แต่อย่างที่บอก บางทีการผ่านสัญญานก็จะเป็นประเภทนึง ส่วนการกันความร้อนเอาตัวไหนมากันความร้อน หากเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ หรือเทียบค่า จะมีความแตกต่างกัน แล้วแต่ว่าเขาจะเอาตัวไหนมาทำการตลาด แต่ของเรามีการเทียบค่าชัดเจน


-รถอีวีติดฟิล์มธรรมดาได้ไหม

        รถอีวีติดฟิล์มธรรมดาได้ ก็อย่างที่บอกว่าการอัพเดทข้อมูลอะไรพวกนี้จะแตกต่างกัน ผู้ใช้รถอีวีบางคนอยากได้ฟิล์มใส คือฟิล์มใสกันความร้อนได้ไม่เยอะ แต่มีข้อดีตรงที่สัญญาณผ่านง่าย อย่างที่บอกการผลิตมันจะมีสารโลหะผสมอยู่ ฉะนั้นสารโลหะพวกนี้จะเป็นตัวที่บล็อกสัญญาณ แต่ถ้าฟิล์มยิ่งใสมากเท่าไหร่สารพวกนี้จะน้อยลง พอน้อยลงสัญญาณจะผ่านง่าย แต่ว่าก็จะกันความร้อนได้ไม่เยอะ


-แต่การกันความร้อนได้เยอะก็สำคัญ

        ใช่ครับ รถยนต์ไฟฟ้าต้องการกันความร้อนสูงกว่ารถทั่วไป ถ้าใช้ฟิล์มสำหรับรถอีวีโดยตรงจะช่วยประหยัด เพราะแอร์จะเป็นตัวที่กินแบตฯในระดับหนึ่ง และซอฟท์แวร์ต้องมีการอัพเดทเรื่อยๆ เพื่อให้ทันสมัยเหมาะกับการใช้งานในประเทศหรือในพื้นที่นั้นๆ


-รถ 1 คัน สมมติเป็นเทสลา ค่าใช้จ่ายในการติดฟิล์มสำหรับรถอีวีจะอยู่ที่เท่าไหร่

        ถ้าเป็นตัว EV Boost เทสลาจะเป็นรถไซส์ L ราคาอยู่ที่ 34,000 บาท ออร่ากู้ดแคทจะเป็นรถไซส์เอ็ม อยู่ที่ 32,500 ราคานี้จะไม่รวมการติดฟิล์มบริเวณซันรูฟ อย่างเทสลานี่ซันรูฟมีพื้นที่ใหญ่มาก ถ้าบวกการติดฟิล์มซันรูฟเข้าไปอีก 11,000 รวมเป็นราคา 45,000 บาท แต่ในช่วงนี้เรามีโปรโมชั่นพิเศษในราคาเพียง 28,000 บาทเท่านั้น



-นอกจาก EV Boost แล้วมีตัวไหนที่คนนิยมใช้กัน

        ถ้าเป็นรถของค่ายเกรทวอลล์จะนิยมติด EVS Boost และมีอีกตัวนึงที่นิยมมากในกลุ่มของเกรทวอลล์ที่เขาคุยกันในกลุ่มไลน์นี่ เขาจะนิยม Ceramatrix Boost มาก ถามว่าดีไหม มันดีมากแล้ว แต่ถ้าถามเอาดีที่สุด ต้องเป็น EV Boost


-แล้วถ้าเป็น CM Icon ล่ะ

        ก็จะเป็นตัวที่ราคาลดหลั่นลงมา จุดเด่นของเขาคือราคาย่อมเยา ข้อแตกต่างความแพงความถูกนี่ หนึ่งอยู่ที่เทคโนโลยีการผลิต พวกนี้เทคโนโลยีการผลิตจะใกล้เคียงกัน แต่อีกอันที่ชัดเจนคือในเรื่องของวัสดุในการผลิตจะมีหลายเกรดมาก เรานำเข้าฟิล์มจากโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ฉะนั้นเรนจ์ในการเลือกวัสดุของเขามีให้เลือกเยอะมากว่า ตัวพียู เขาจะใช้ตัวพียูในเกรดไหน ในความสว่างเท่ากัน เช่น กันความร้อนที่ 60 เปอร์เซ็นต์ ฟิล์มจะใสอยู่ประมาณนี้ ขณะเดียวกันในความมืดเท่ากัน ถ้าใช้วัสดุที่ดีกว่าความเคลียร์ชัดมันมากกว่า เราจะเห็นว่ามันสว่างกว่า จริงๆ แล้วมันมืดเท่ากันนั่นแหละ แต่เอาภาพชัดปุ๊บเราจะเห็นว่ามันสว่าง ฉะนั้นความถูก ความแพง ขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาผลิตด้วย


-ลามิน่าจะเคลื่อนตัวไปตามตลาด ไปตามเทรนด์รถ

        ใช่ครับ เราต้องดูตลาดด้วย และในขณะเดียวกันฟิล์มของเรานำเข้ามาจากประเทศอเมริกา ตอนนี้เทคโนโลยีผลิตฟิล์มที่ดีที่สุดอยู่ที่อเมริกา ฉะนั้นเขาต้องรักษามาตรฐาน ต้องตามเทรนด์ให้ทันว่าปัจจุบันโลกเราพัฒนาไปในรูปแบบไหน โรงงานที่ผลิตฟิล์มส่งให้เราเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา

 

มารู้จักฟิล์มตระกูล BOOST ที่ตอบโจทย์รถอีวี

        หากเข้าไปดูในเว็บไซต์ “ลามิน่า ฟิล์ม” จะพบว่าในหมวดฟิล์มสำหรับรถยนต์มีให้เลือกมากถึง 11 เกรด ดังนี้

1.       EV BOOST

2.       EVS BOOST

3.       Ceramatrix BOOST

4.       Ceramatrix Safety

5.       Mystery BOOST

6.       CM ICON BOOST

7.       CM ONE BOOST

8.       Special Series

9.       Executive Series

10.   Genius Series

11.   POP Series



        ฟิล์มทั้งหมดจะเป็นฟิล์มสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยตรง 2 เกรด คือ EV Boost และ EVS Boost แต่ถ้าถามว่ามีฟิล์มตัวไหนบ้างสามารถใช้กับรถยนต์ EV ได้ ก็จะได้รับคำตอบว่าฟิล์มตระกูล Boost ทุกรุ่นมีความเหมาะสมสำหรับใช้กับรถอีวี ซึ่งมีให้เลือกใช้มากถึง 6 เกรด ซึ่งจะมีราคาแตกต่างลดหลั่นกันไปตามเทคโนโลยีและวัสดุที่นำมาใช้ในการผลิต

        ถามว่าทำไมรถอีวีต้องเลือกใช้ฟิล์มตระกูล BOOST คำตอบคือเพื่อให้สามารถรองรับและช่วยบูสต์สัญญานดิจิทัลทุกชนิดให้รับสัญญานได้แรง เร็ว และราบรื่น โดยที่ยังลดความร้อนจากแสงแดดจากรังสี UVA/UVB ได้ดี และถ้าต้องการให้สัญญานเร็ว แรง ลื่น และเสถียรมากกว่าฟิล์มยุค 4G ก็ต้องเป็นฟิล์มเทคโนโลยี DigitalBoost® 

        คุณสมบัติพิเศษของเทคโนโลยี DigitalBoost® คือสามารถช่วยบูสต์สัญญาณดิจิทัล ทุกชนิดทั้ง 4G / 5G / Wi-Fi / GPS / Easy Pass เสริมประสิทธิภาพสมองกล Smart AI ภายในรถไฟฟ้ายุคใหม่ที่มีระบบ ADAS และ Infotainment ให้ เร็ว...แรง...ลื่น...เสถียร ทำให้สามารถรับ-ส่งข้อมูลดิจิทัลภายในรถได้รวดเร็วเต็มประสิทธิภาพ และรับสื่อออนไลน์หลายอุปกรณ์พร้อมกันได้ลื่นไหลไม่สะดุด ลดปัญหาสัญญานดิจิตอลอ่อนได้ตรงจุด


เรื่องประกันภัย ไว้ใจเพื่อนคนนี้

อินชัวร์เฟรนด์โบรกเกอร์
Call : 063-636-5456  |  02-114-6464
Line ID: @insurefriend ( คลิก http://lineid.me/insurefriend )

My Instagram

Copyright © Insure Friend Broker - "เรื่องประกันภัย ไว้ใจเพื่อนคนนี้".