5 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพผู้สูงอายุ - Insure Friend Broker - "เรื่องประกันภัย ไว้ใจเพื่อนคนนี้"

5 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพผู้สูงอายุ



 

เพื่อนๆ หลายคนที่มีประกันสุขภาพเป็นของตัวเองนั้น ต่างก็หวังให้ช่วยดูแล แบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลเมื่อยามที่เจ็บป่วยขึ้นมา หรือไม่สบายอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่มีครอบครัวใหญ่ แล้วอยากจะทำประกันสุขภาพให้กับผู้สูงอายุด้วยล่ะ จะต้องพิจารณาอะไรบ้าง? ต้องขอบอกก่อนเลยค่ะว่ารายละเอียดนั้นจะต่างจากประกันสุขภาพทั่วๆ ไปนะคะ หากคุณกำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพผู้สูงอายุ ก็จะต้องศึกษาเรื่องนี้ให้ดีก่อนค่ะ

1. อ่านรายละเอียดความคุ้มครองของประกันภัยให้ดี

ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ เราจะต้องพิจารณาศึกษารายละเอียดความคุ้มครองให้ดีเสียก่อน เนื่องจากประกันสุขภาพนั้นจะมีเงื่อนไขความคุ้มครองค่อนข้างเยอะ ซึ่งบางกรณีก็อยู่ในข้อยกเว้นด้วยนะคะ 

ถ้าเราไม่อ่านรายละเอียดให้ดี พอซื้อไปแล้วประกันก็ไม่คุ้มครอง เราก็จะเสียเงินทิ้งไปเปล่าๆ นะคะ 

เพื่อความเข้าใจง่ายขึ้น เราควรจะต้องอ่านรายละเอียดความคุ้มครองต่างๆ ดังนี้ค่ะ

  • อายุของผู้ทำประกัน ให้เราตรวจสอบอายุของผู้สูงอายุ หรือคุณพ่อ คุณแม่ คุณตา คุณยาย คุณปู่ คุณย่าของเราก่อนว่า..สามารถทำกรมธรรม์ประกันภัยได้หรือไม่ ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขตามกรมธรรม์นั้นๆ ค่ะ (ฉะนั้นเพื่อนๆ ก็อ่านให้ดีก่อนนะคะ)

  • แผนความคุ้มครอง ถือว่าเป็นหัวใจหลักของการทำประกัน กรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เราจะได้รู้ว่าประกันสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุนั้นคุ้มครองอะไรบ้าง ถ้าเลือกทำประกันแล้วได้อะไรเช่น ค่ารักษาพยาบาล, ค่าห้องพัก, ค่ายา, ค่าผ่าตัด, ค่าขนย้ายผู้ป่วย, ค่ารักษาอย่างต่อเนื่อง, รวมถึงค่าชดเชยรายได้จากการนอนพักรักษาตัวเป็นต้นค่ะ เพื่อเป็นหลักประกันว่า..เมื่อยามที่เจ็บป่วยขึ้นมา จะได้รับสิทธิ์ในการเข้ารับการรักษาทันที โดยครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตนั่นเองค่ะ

  • เงื่อนไขและข้อยกเว้น เนื่องจากประกันสุขภาพของแต่ละบริษัทฯ จะมีเงื่อนไขและข้อยกเว้นที่แตกต่างกัน เราจึงควรอ่านเอกสารให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อนะคะ เพราะถ้าเกิดมีปัญหาขึ้นมา จะได้ทราบว่าประกันสุขภาพผู้สูงอายุมีข้อยกเว้นอะไรบ้าง ยกตัวอย่างกรณีที่ไม่รับเคลมก็คือ การรักษาเกี่ยวข้องกับความงาม, การฝังเข็ม, หรือการรักษาที่ไม่ใช่เเพทย์เฉพาะทางเป็นต้นค่ะ ถ้าเราศึกษาเงื่อนไขต่างๆ ให้ชัดเจน ก็จะช่วยป้องกันปัญหาการเคลมที่อาจเกิดขึ้นในภายหลังได้ค่ะ แต่ถ้ามีเอกสารแนบท้ายก็อย่าลืมอ่านให้ดีก่อนซื้อประกันสุขภาพด้วยนะคะ

2. วงเงินค่ารักษาพยาบาล

การเลือกซื้อประกันสุขภาพผู้สูงอายุ เราต้องตรวจสอบวงเงินเอาประกันด้วยเช่นกันค่ะ พูดง่ายๆ ก็คือ วงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายต่างๆ สำหรับการรักษานั่นเองค่ะ กรณีที่เรายินดีจ่ายค่าเบี้ยประกันที่แพงขึ้น เราก็จะได้รับทุนประกันมากขึ้นตามไปด้วยค่ะ หรือหากผู้สูงอายุเกิดเหตุฉุกเฉินต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล คุณก็จะไม่ต้องเสียค่ารักษาเองด้วยค่ะ เราขอแนะนำให้คุณเลือกทำประกันสุขภาพครอบคลุมในส่วนที่จำเป็น เช่น ค่ารักษากรณีผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) ค่าห้องพัก, ค่าผ่าตัด, ค่ารักษาโรคร้ายแรงหรืออุบัติเหตุเป็นต้นค่ะ ก็เลือกให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณที่มีนะคะ ประกันสุขภาพผู้สูงอายุจะเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ และตามทุนประกันที่เรากำหนดเท่านั้น ถ้าเราคำนวณวงเงินค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นก่อน ก็จะช่วยพิจารณาอัตราค่ารักษาหลักๆ ที่บริษัทประกันต้องจ่ายได้อีกด้วยค่ะ

3. ค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่าย

เพื่อนๆ อย่าลืมคำนวณค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายคร่าวๆ กันด้วยนะคะ แนะนำให้คุณลองเปรียบเทียบตามความต้องการ ความคุ้มค่า, ในแผนประกันที่คุณเลือกว่า จ่ายค่าเบี้ยประมาณนี้ ประกันแผนไหนให้ความคุ้มค่าที่สุด โดยวางแผนค่าเบี้ยประกันให้เหมาะสมกับรายได้ เช่นค่าเบี้ยประกันไม่ควรเกิน 10% ต่อรายได้ทั้งปีเป็นต้นค่ะ หรือจะเลือกซื้อประกันสุขภาพผู้สูงอายุที่มีส่วนลดค่าเบี้ยประกันเพิ่มเติมก็ได้ค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันภัยกำหนดค่ะ และยิ่งถ้าเราวางแผนค่าใช้จ่ายได้ดีมากเท่าไหร่ ก็จะช่วยเเบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ถูกลงตามไปด้วยค่ะ

4. ระยะเวลาความคุ้มครอง

ซึ่งตามปกติแล้วการทำประกันสุขภาพ จะมีช่วงเวลาที่เราไม่สามารถแจ้งเคลมค่ารักษาได้ หรือเราเรียกกันอีกอย่างว่า “ช่วงระยะเวลารอคอย” สมมติกรณีเจ็บป่วยทั่วไป อาจจะกำหนดให้รอคอย 30 วันนับตั้งแต่กรมธรรม์มีผลบังคับใช้เป็นต้นค่ะ แต่บางโรคก็อาจจะต้องรอคอยนานมากถึง 90-180 วันค่ะ ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของโรคที่อาจจะเกิดขึ้น ก็เพื่อป้องกันคนที่รู้ตัวว่าตัวเองป่วยก่อนหน้านี้แล้วมาซื้อประกันสุขภาพทีหลังค่ะ ดังนั้น คุณจะต้องอ่านช่วงระยะเวลาคุ้มครองให้ดีก่อนนะคะ เพื่อจะได้วางแผนช่วงเวลาได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมที่สุดค่ะ

*** ทั้งนี้ช่วงระยะเวลารอคอย จะเป็นไปตามที่แต่ละบริษัทประกันกำหนดขึ้นมาเองค่ะ***

5. โรงพยาบาลที่อยู่ในเครือ

สำหรับการซื้อประกันสุขภาพผู้สูงอายุ คุณก็อย่าลืมศึกษาโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือ และใกล้บ้านของคุณด้วยนะคะ จะช่วยทำให้คุณมั่นใจได้ว่า หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับคนที่คุณรัก ก็จะสามารถเข้ารับบริการตามโรงพยาบาลได้ทันท่วงที และไม่ต้องสำรองเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลก่อนค่ะ อย่างน้อยคนที่คุณรักก็จะได้รับการรักษาทันที และก็ช่วยให้คุณหมดห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่อาจจะเกิดขึ้น แล้วก็อย่าลืมเช็กสิทธิ์โรงพยาบาลที่อยู่ในเครือต่างๆ เผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉินด้วยนะคะ


อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า คนในครอบครัวถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เราเองจึงต้องศึกษารายละเอียดให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพผู้สูงอายุ ไม่ว่าคนในครอบครัวจะเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อย หรือไม่สบายหนักๆ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อลูกหลานอย่างเราได้ค่ะ

ดังนั้น อย่าลืมมองหาประกันสุขภาพผู้สูงอายุ เพื่อคอยช่วยเหลือค่ารักษาเมื่อยามจำเป็น ที่พร้อมดูแลคนที่เรารักกันด้วยนะคะ


My Instagram

Copyright © Insure Friend Broker - "เรื่องประกันภัย ไว้ใจเพื่อนคนนี้".