Home new Audi เปิดตัว Plug-in Hybrid รุ่น Q5 55 TFSI e และ Q5 Sportback 55 TFSI e
Audi เปิดตัว Plug-in Hybrid รุ่น Q5 55 TFSI e และ Q5 Sportback 55 TFSI e
PongPang 22.9.65 0
อาวดี้ ประเทศไทย เปิดตัว
Audi Plug-in Hybrid 2 รุ่นหลัก 3 รุ่นย่อย The New Audi Q5 Sportback 55 TFSI e และ The
New Audi Q5 55 TFSI e ระบบไฟฟ้าวิ่งได้ 54.3 กม.
มั่นใจเป็นทางเลือกตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่
ด้วยระยะการวิ่งด้วยไฟฟ้าที่เหมาะกับการใช้งานในเมือง
คุณกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาวดี้
ประเทศไทย
กล่าวว่าจากความสำเร็จของของยนตรกรรมอาวดี้เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดสองรุ่นแรก คือ Audi
Q7 TFSI e และ Audi Q8 TFSI e ที่นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อต้นปี
และได้รับการตอบอย่างดี จึงเดินหน้านำยนตรกรรมปลั๊กอินไฮบริดเข้ามาแนะนำสู่ตลาดประเทสไทย
รุ่นที่นำเข้ามาเปิดตัวล่าสุดเป็นพรีเมียม SUV The New Audi Q5 PHEV ซึ่งนำเข้าเปิดตัวพร้อมกัน 2 รุ่น คือ The
New Audi Q5 55 TFSI e และ The New Audi Q5 Sportback 55
TFSI e
Audi Q5 เป็นพรีเมียม SUV ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากลูกค้า เพราะตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่ทุกมิติ มีดีไซน์สปอร์ต
ปราดเปรียว ขับสนุก สมรรถนะดีเยี่ยม ส่วนเครื่องยนต์ก็มีกำลังมากเพียงพอต่อการใช้งานและระบบขับเคลื่อน
4 ล้อ quattro อันเป็นเอกลักษณ์
ที่สำคัญ The New Q5 TFSI e เป็น the right size SUV ขนาดของรถไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป ให้ความคล่องตัวสูง
มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง สะดวกสบายทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ไม่ว่าจะเดินทางระยะใกล้ๆ ในชีวิตประจำวัน หรือจะเป็นทริปเดินทางไกลสุดสัปดาห์
The New Audi Q5 55 TFSI e quattro และ The New Audi Q5 Sportback 55 TFSI e quattro เป็นรถ Plug-in Hybridที่มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 TFSI ให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร เมื่อผนวกพละกำลังกันแล้ว ทำให้มีกำลังแรงม้า รวมสูงสุดถึง 367 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 500 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ 7 สปีด S tronic ส่งกำลังผ่านระบบ quattro with ultratechnology ระบบขับเคลื่อนจะสามารถปรับให้ขับเคลื่อนแค่ล้อหน้าได้ในกรณีที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เพื่อช่วยในการประหยัดน้ำมันและจะสามารถเปลี่ยนเป็นระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้อได้ทันทีเมื่อมีความจำเป็น
ส่วนของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจะอยู่บริเวณใต้ที่เก็บสัมภาระท้ายรถ ผลิตจาก prismatic cell จำนวน 104 เซลล์ ความจุพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงขนาด 17.9 กิโลวัตต์ ซึ่งทำให้อัตราสิ้นเปลืองของ The New Audi Q5 55 TFSI e quattro อยู่ที่ 52.6 กิโลเมตรต่อลิตร และปล่อย co2 เพียง 44.5 กรัมต่อกิโลเมตร ขับสนุกเร่งแซงทันใจด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 5.3 วินาที
ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 239 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อใช้กำลังจากแบตเตอรี่ไฟฟ้าอย่างเดียว สามารถวิ่งได้ไกลถึง 54.3 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่ที่ 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากความเร็วมากกว่านั้นเครื่องยนต์จะติดขึ้นมาเพื่อเสริมแรงบิดร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า
เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดใน Q5 ถูกออกแบบมาให้มีความชาญฉลาด ภายใต้โหมดการขับขี่ที่หลากหลายทั้ง Audi
Q5 55 TFSI e quattro และ The New Audi Q5 Sportback 55 TFSI
e quattro สามารถตอบโจทย์การขับขี่ได้ทุกรูปแบบ
ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองด้วยระบบไฟฟ้าล้วน การขับขี่ทางไกล
หรือการขับขี่แบบสปอร์ต ที่สำคัญประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม
เพราะถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยโหมด EV ใช้ไฟฟ้าล้วนเป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตามเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้งานระยะทางไกลก็สามารถเลือกใช้โหมดการขับขี่แบบ
Auto ได้
ขณะที่ลูกค้าที่ต้องการความรู้สึกแบบสปอร์ตและความสนุกสนานในการขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่แบบ
Dynamic ที่จะมีการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ให้ได้กำลังสูงสุด
สำหรับลูกค้าที่ต้องการปรับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ให้เหมาะกับสไตล์ของตัวเอง
สามารถตั้งค่าการใช้งานในโหมดการขับขี่แบบ Individual ได้อีกด้วย
เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดของ Q5 สามารถจัดการรูปแบบการใช้พลังงานในการขับขี่ได้ 2 แบบ
คือ EV mode และแบบ Hybrid โดยการจัดการพลังงานแบบ
EV mode ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ซึ่งจะถูกใช้งานทุกครั้งหลังจากที่สตาร์ทรถ
โดยตัวรถจะขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนตราบใดที่ผู้ขับไม่เหยียบคันเร่งลึกกว่าจุดที่กำหนด
จึงประหยัดน้ำมันได้มาก
ส่วนการจัดการพลังงานแบบ Hybrid แบ่งออกเป็น
3 โหมดด้วยกัน โหมดแรกคือ Auto Hybrid ตัวรถจะมีการจัดการการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ
ตามสภาวะการขับขี่ โหมดที่สองคือ Battery Hold เป็นโหมดที่จะรักษาระดับพลังงานของแบตเตอรี่ไว้ให้คงเดิมและโหมดสุดท้าย
Battery Charge ตัวรถจะมีการชาร์จแบตเตอรี่ให้ได้มากที่สุด
โดยเครื่องยนต์จะมีบทบาทในการทำงานมากขึ้น
ทั้งนี้ The New Audi Q5 55 TFSI e มีให้เลือก 2
รุ่นย่อย คือ S line และ S line black
edition ในรุ่น S line เป็นรุ่นเริ่มต้น
แต่มีชุดแต่ง S line สี Chromium พร้อมกับล้อขนาด
19 นิ้ว ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
และมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพียงพอต่อการใช้งาน เช่น ไฟหน้า LED มาพร้อมไฟ daytime เปิดปิดไฟหน้าและปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
เบาะคู่หน้าแบบสปอร์ตปรับไฟฟ้า ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ
ควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 3 โซน ระบบช่วยปรับอุณหภูมิในห้องโดยสารก่อนเริ่มขับขี่
Comfort key และ Virtual cockpit ขนาด 12.3
นิ้ว
ขณะที่ รุ่น S line Black Edition มาพร้อมกับความสปอร์ตที่มากขึ้นด้วยล้อขนาด
20 นิ้ว และชุดแต่ง S line Black Edition ซึ่งถูกตกแต่งด้วยขอบคิ้วกระจกและช่องลมต่างๆ สีดำ ซึ่งต่างจากตัวเริ่มต้น
ที่เป็นสี Chromium ภายในเป็นแบบ S line ด้วยเช่นเดียวกัน พวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อมสัญลักษณ์ S line เบาะแบบ Sport ลาย Diamond cut หุ้มหนัง Fine Nappa พร้อมสัญลักษณ์ S line
ระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang&Olufsen พร้อมระบบ 3 มิติ และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ซึ่งประกอบไปด้วย
ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน (Lane change assist) ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อจะเปิดประตูลงจากรถ (Exit
warning) ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง
(Rear cross-traffic assist)
สำหรับ The New Audi Q5 Sportback 55 TFSI e นับเป็นครั้งแรกของการเปิดตัว
Q5 ทรง Sportback ในประเทศไทย
เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบความสปอร์ต
ด้วยรูปทรงด้านท้ายลาดลงสไตล์รถคูเป้ Audi Q5 Sportback 55 TFSI e มาพร้อมกับความสปอร์ตที่มากขึ้นด้วยล้อขนาด 20 นิ้ว
และชุดแต่ง S line Black Edition ที่ถูกตกแต่งด้วยขอบคิ้วกระจกและช่องลมต่างๆ
สีดำ ซึ่งต่างจากตัวเริ่มต้นที่เป็นสีเงิน ภายในเป็นแบบ S line ด้วยเช่นเดียวกัน พวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อมสัญลักษณ์ S line เบาะแบบ sport ลาย Diamond cut หุ้มหนัง Fine Nappa พร้อมสัญลักษณ์ S line
นอกจากความเป็นสปอร์ตแล้ว The New Audi Q5 Sportback 55 TFSI e ยังมีอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครัน
อาทิ ไฟหน้า LED มาพร้อมไฟ daytime เปิดปิดไฟหน้าและปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
เบาะคู่หน้าแบบสปอร์ตปรับไฟฟ้า ระบบช่วยปรับอุณหภูมิในห้องโดยสารก่อนเริ่มขับขี่ Comfort
key หน้าจอ Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแยกอิสระ 3 โซน
ระบบ comfort key หลังคา Panoramic
sunroof และระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang&Olufsen พร้อมระบบ 3 มิติ และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่
ซึ่งประกอบไปด้วย ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน (Lane change
assist) ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อจะเปิดประตูลงจากรถ
(Exit warning) ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง
(Rear cross-traffic assist)
The New Audi Q5 55 TFSI e S
line มีให้เลือก 3 สี คือ Glacier
White metallic, Mythos Black metallic ซึ่งจับคู่กับสีภายใน Okapi
brown และ Chronos Grey metallic จับคู่กับสีภายใน
Black และสีภายนอก ของ Audi Q5 55 TFSI e Black
Edition และ The New Audi Q5 Sportback 55 TFSI e Black
Edition สามารถเลือกสีภายนอกได้ถึง 5 สี คือ Glacier
white metallic, Mythos black metallic, Ultra blue metallic, District green
metallic และ Chronos grey metallic จับคู่กับภายในสีดำ
ราคาของ The New Audi Q5 ทั้ง 3 รุ่น
° Audi Q5 55 TFSI e quattro S
line Black Edition ราคา 3,950,000 บาท
° Audi Q5 Sportback 55 TFSI e quattro S line
Black Edition ราคา 4,190,000 บาท
เปิดจองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมทยอยส่งมอบภายในไตรมาสที่
1 ปี 2566
อินชัวร์เฟรนด์โบรกเกอร์
Call : 063-636-5456 | 02-114-6464
Line ID: @insurefriend ( คลิก http://lineid.me/insurefriend )