Home new สรุปยอดจดทะเบียนสะสมรถยนต์ไฟฟ้าปี 65 มีสัดส่วนไม่ถึง 1% ชี้ตลาดยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก
สรุปยอดจดทะเบียนสะสมรถยนต์ไฟฟ้าปี 65 มีสัดส่วนไม่ถึง 1% ชี้ตลาดยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก
PongPang 7.2.66 0
ตัวเลขอัตราการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนในปี 2565 ที่มีตัวเลขเติบโตก้าวกระโดดกว่า 200% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2564 อาจทำให้หลายคนตื่นเต้นกับจำนวนรถจดทะเบียนที่พุ่งสูงขึ้น ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงอัตราเติบโตระดับนี้เป็นปรากฏการณ์ปกติของตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ ที่มีการเติบโตจากพื้นฐานที่มีผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าจำนวนไม่มากนัก ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดยังไม่ถึง 1% ของรถยนต์โดยรวมทั้งหมด ที่ประกอบด้วยรถที่ใช้เชื้อเพลิงหลากหลายประเภท
สภาพตลาดที่แท้จริงดังกล่าวสามารถตรวจสอบได้จากจำนวนรถจดทะเบียนสะสมของกรมการขนส่งทางบกที่ได้มีการรวมรวมข้อมูลสรุปเป็นรายงานสถิติการขนส่ง
5 ปี (ปีงบประมาณ 2561-2565)โดยได้มีรายงานสรุปจำนวนรถจดทะเบียนสะสมตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
จำแนกตามชนิดเชื้อเพลิง ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 ดังนี้ พบว่ามีรถใช้เชื้อเพลิงเป็นน้ำมันเบนซินมากที่สุดโดยมีรายละเอียดดังนี้
1.รถใช้เบนซินจำนวน 29,334,264 คัน
หรือคิดเป็นสัดส่วน 70.18%
2.รถใช้น้ำมันดีเซล จำนวน 11,281,082 คัน 26.99%
3.รถใช้แก๊สแอลพีจี จำนวน 595,476 คัน 1.42%
4.รถไฮบริด 285,662 คัน 0.68%
5.รถใช้แก๊สซีเอ็นจี (เอ็นจีวี) 252,552 คัน 0.60%
6. รถไฟฟ้า 24,053 คัน 0.06%
7.รถไม่ใช้เชื้อเพลิง 7,903 คัน 0.02%
8.อื่นๆ 20,337 คัน 0.05%
หากแยกเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าออกมาดูให้ชัด ก็จะเป็นตัวเลขจดทะเบียนของรถไฟฟ้า 24,053 คัน 0.06% รวมกับรถไฮบริด 285,662 คัน 0.68% เป็นยอดรวมทั้งสิ้น 309,715 คัน คิดเป็น 0.74% ของยอดจดทะเบียนรถยนต์โดยรวมทั้งหมด ดังนั้นการเติบโตที่ก้าวกระโดดนั้นเป็นปรากฎการณ์ปกติ ยิ่งถ้านำตัวเลขนี้ไปเปรียบเทียบกับแผนส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลที่ตั้งเป้าหมายให้มียอดผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 30% โดยรวมในปี 2030 ถือว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และมีโอกาสเติบโตอีกมาก
ที่มา : กรมการขนส่งทางบก
เรื่องประกันภัย ไว้ใจเพื่อนคนนี้
อินชัวร์เฟรนด์โบรกเกอร์
Call : 063-636-5456 | 02-114-6464
Line ID: @insurefriend ( คลิก http://lineid.me/insurefriend )