อะไรบ้างเราต้องรู้เกี่ยวกับการตรวจสภาพรถ ตอนนี้รถของเพื่อนๆ ถึงเวลาต้องตรวจสภาพรถกันแล้วรึยัง ? - Insure Friend Broker - "เรื่องประกันภัย ไว้ใจเพื่อนคนนี้"

อะไรบ้างเราต้องรู้เกี่ยวกับการตรวจสภาพรถ ตอนนี้รถของเพื่อนๆ ถึงเวลาต้องตรวจสภาพรถกันแล้วรึยัง ?

 


อะไรบ้างเราต้องรู้เกี่ยวกับการตรวจสภาพรถ ตอนนี้รถของเพื่อนๆ ถึงเวลาต้องตรวจสภาพรถกันแล้วรึยัง ?

ทุกคนที่มีรถไม่ว่าจะเป็นรถประเภทใดก็ตาม จะต้องมีการเสียภาษีประจำปีอยู่แล้ว แต่เพื่อนๆ หลายคนอาจเคยได้ยินว่า จะต้องทำการตรวจสภาพรถก่อน จึงจะเสียภาษีประจำปีได้ เลยสงสัยว่ารถจะต้องมีอายุการกี่ปีถึงจะต้องตรวจสภาพก่อนเสียภาษี ซึ่งเพื่อนๆ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ใครก็ตามที่มีรถยนต์ หรือ รถจักรยายนต์ส่วนบุคคลไว้ครอบครอง นั้นจะต้องมีการเสื่อมสภาพ และจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ยิ่งถ้ารถมีอายุการใช้งานหลายปี ยิ่งต้องเช็คสภาพและดูแลเป็นพิเศษ เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยบนท้องถนนค่ะ ดังนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่า..อะไรบ้างเราต้องรู้เกี่ยวกับการตรวจสภาพรถ และรถต้องมีอายุกี่ปี ถึงควรตรวจสภาพไปอ่านกันค่ะ

กฎหมายการตรวจสภาพรถ

ตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติ กรมการขนส่งทางบก มีหน้าที่รับผิดชอบการตรวจสภาพรถ ทั้งรถที่จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติ การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 และตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 รถที่จะนำมาใช้ในการขนส่งตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 หรือนำมาจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 จะต้องมีสภาพมั่นคง แข็งแรง มีลักษณะ ขนาด และเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบของรถ ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับรถ และผู้โดยสารไปกับรถคันนั้น ผู้ขับขี่รถคันอื่นๆ คนเดินถนน รวมทั้งสภาพแวดล้อมต่างๆ ค่ะ

แล้วอายุของรถกี่ปีที่ต้องตรวจสภาพ ?

สิ่งสำคัญที่เพื่อนๆ หลายคนอยากทราบก็คือ อายุของรถกี่ปีถึงจะต้องนำรถเข้าตรวจสภาพ เราได้สรุปมาให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้ค่ะ

  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป

  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป

  • รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป

  • รถจักรยานยนต์ ที่มีอายุใช้งานครบ 5 ปี ขึ้นไป

  • สำหรับกรณี รถยนต์ที่ติดตั้งก๊าซ NGV และแก๊ส LPG จะต้องนำรถเข้ามาตรวจสภาพถังก๊าซ และอุปกรณ์ ก่อนต่อภาษีรถทุกปี

 

การนับอายุการใช้งานของรถ ก่อนเข้ามาตรวจสภาพรถ



วิธีการนับอายุการใช้งานของรถ ให้นับอายุทางทะเบียน โดยนับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก ถึงวันสิ้นสุดอายุภาษีประจำปี (วันครบกำหนดเสียภาษีประจำปี) ยกตัวอย่าง เช่น

  • รถยนต์ จดทะเบียน ปี 2558 จะต้องเข้ารับการตรวจสภาพรถครั้งแรก ปี 2565 (ครบ 7 ปี ตามอายุการใช้งานรถยนต์)

  • รถมอเตอร์ไซค์ จดทะเบียน ปี 2560 จะตรวจสภาพรถครั้งแรก ปี 2565 (ครบ 5 ปี ตามอายุการใช้งานรถมอเตอร์ไซค์)

และในความเป็นจริง เจ้าของรถยังสามารถนำรถไปตรวจสภาพล่วงหน้าได้ ไม่เกิน 3 เดือน ก่อนถึงวันสิ้นอายุภาษีประจำปีอีกด้วย

สถานที่ตรวจสภาพรถ และข้อยกเว้น



สำหรับสถานที่ตรวจสภาพรถนั้น เจ้าของรถสามารถนำไปตรวจสภาพได้ที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก หรือหน่วยงานของกรมการขนส่งทางบกก็ได้ ซึ่งต้องเป็นไปตามเงื่อนไขประเภทของรถ และอายุการใช้งานของรถที่ถูกกำหนดก่อนเข้ารับการตรวจสภาพ แต่ทั้งนี้ กฎหมายก็มีกำหนด ข้อยกเว้น สำหรับรถในบางกรณี โดยมีข้อยกเว้น ดังนี้ค่ะ

  • รถที่มีการดัดแปลงสภาพผิดไปจากที่จดทะเบียนไว้ ซึ่งต้องนำไปให้นายทะเบียนตรวจสภาพ ที่หน่วยงานของกรมการขนส่งทางบก (เนื่องจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน ไม่สามารถตรวจสภาพได้)

  • รถที่มีการเปลี่ยนสี หรือเปลี่ยนแปลงตัวรถ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้ (เช่น เปลี่ยนเครื่องยนต์ เปลี่ยนลักษณะรถ เป็นต้น)

  • รถที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลขตัวรถ หรือเลขเครื่องยนต์ (เช่น ไม่ปรากฏตัวเลข ตัวเลขชำรุด ขูด หรือลบเลือนจนไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องชัดเจนได้)

  • รถที่ได้แจ้งการไม่ใช้ชั่วคราว หรือแจ้งการไม่ใช้รถตลอดไป

  • รถเก่า ที่มีเลขทะเบียนเป็นเลขทะเบียนรุ่นเก่า ( เช่น กก-00001, กกท-0001 เป็นต้น) ซึ่งรถดังกล่าวต้องทำการแจ้งเปลี่ยนทะเบียนรถใหม่ก่อน จึงจะนำมาเสียภาษีประจำปีได้

  • รถที่มีปัญหาเกี่ยวกับการถูกโจรกรรมแล้วได้คืน

  • รถที่ได้สิ้นอายุภาษีประจำปี (ขาดต่อทะเบียน) เกิน 1 ปีค่ะ

ค่าตรวจสภาพรถตามมาตรฐานที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด

ก่อนไปตรวจสภาพรถ เจ้าของรถจะต้องนำรถ และสมุดคู่มือทะเบียนรถไปแสดง หากตรวจสภาพผ่าน จะได้รับใบรับรองการตรวจสภาพ แต่ถ้ารถไม่ผ่านเกณฑ์การตรวจสภาพ ทางสถานตรวจสภาพรถจะแจ้งข้อบกพร่อง เพื่อให้เราไปแก้ไข ภายใน 15 วัน โดยจะเสียค่าตรวจใหม่ครึ่งหนึ่งของค่าบริการที่กำหนดไว้ค่ะ สำหรับการตรวจสภาพรถของรถแต่ละประเภท จะมีอัตราค่าธรรมเนียม ดังนี้ค่ะ

  • รถจักรยานยนต์ คันละ 60 บาท

  • รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 150 บาท

  • รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 250 บาท

ทั้งหมดนี้ คงพอให้เพื่อนๆ หลายคนเข้าใจขั้นตอนการตรวจสภาพรถกันมากขึ้น ซึ่งแต่ละขั้นตอนการดำเนินการนั้นไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ต้องทำให้ถูกวิธีค่ะ และจำไว้เสมอว่า..ถ้ามีรถยนต์ ต้องตรวจสภาพเมื่ออายุการใช้งานครบ 7 ปี และ รถมอเตอร์ไซค์ อายุการใช้งาน 5 ปีค่ะ 

เตรียมรถและเอกสารต่างๆ ให้พร้อม เพียงเท่านี้ก็สามารถตรวจสภาพรถได้ง่ายๆ แล้วค่ะ 

สำหรับใครที่กำลังมองหาข้อมูลการตรวจสภาพรถ หรือ เช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์ฟรีได้ที่ Insurefriend ค่ะ


My Instagram

Copyright © Insure Friend Broker - "เรื่องประกันภัย ไว้ใจเพื่อนคนนี้".